ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์อาหารที่ทำจากวัสดุกระดาษได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยและสุขอนามัย จึงมีมาตรฐานบางประการที่วัสดุกระดาษที่ใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารต้องปฏิบัติตาม บรรจุภัณฑ์เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพและรสชาติของอาหารภายใน ดังนั้น วัสดุบรรจุภัณฑ์อาหารจึงจำเป็นต้องได้รับการทดสอบในทุกด้าน และต้องเป็นไปตามมาตรฐานดังต่อไปนี้

1. ผลิตภัณฑ์กระดาษผลิตจากวัตถุดิบที่สะอาด
วัสดุกระดาษที่ใช้ในการผลิตชามกระดาษ ถ้วยกระดาษ กล่องกระดาษ และบรรจุภัณฑ์อื่นๆ สำหรับอาหาร ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับเนื้อหาและองค์ประกอบของกระบวนการผลิต ดังนั้น ผู้ผลิตจึงต้องใช้วัสดุกระดาษที่ทำจากวัตถุดิบที่สะอาด ได้มาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัย ไม่ส่งผลกระทบต่อสี กลิ่น หรือรสชาติของอาหาร และให้การปกป้องสุขภาพที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภค
นอกจากนี้ ห้ามใช้วัสดุกระดาษรีไซเคิลในผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับอาหารโดยตรง เนื่องจากกระดาษชนิดนี้ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล จึงผ่านกระบวนการกำจัดหมึก ฟอกสี และฟอกขาว ซึ่งอาจมีสารพิษที่ปนเปื้อนลงในอาหารได้ง่าย ดังนั้น ชามกระดาษและแก้วน้ำส่วนใหญ่จึงทำจากกระดาษคราฟท์บริสุทธิ์ 100% หรือเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ 100%
2. เป็นไปตามมาตรฐาน FDA และไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร
วัสดุกระดาษที่ใช้เสิร์ฟอาหารต้องเป็นไปตามเกณฑ์ต่อไปนี้: ความปลอดภัยและสุขอนามัย ไม่มีสารพิษ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงวัสดุ และไม่มีปฏิกิริยากับอาหารที่บรรจุอยู่ ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่สำคัญไม่แพ้กันที่กำหนดสถานะสุขภาพของผู้ใช้ เนื่องจากบรรจุภัณฑ์กระดาษสำหรับอาหารมีความหลากหลายมาก ตั้งแต่อาหารเหลว (ก๋วยเตี๋ยวน้ำ ซุป กาแฟร้อน) ไปจนถึงอาหารแห้ง (เค้ก ขนมหวาน พิซซ่า ข้าว) ล้วนใช้กระดาษเป็นวัสดุหลัก จึงมั่นใจได้ว่ากระดาษจะไม่ได้รับผลกระทบจากไอน้ำหรืออุณหภูมิ
กระดาษบรรจุอาหารควรเป็นไปตามข้อกำหนดด้านความแข็ง น้ำหนักกระดาษที่เหมาะสม (GSM) ความต้านทานแรงอัด ความต้านทานแรงดึง ความต้านทานการแตก การดูดซับน้ำ ความขาวตามมาตรฐาน ISO ความต้านทานความชื้นของกระดาษ ความต้านทานความร้อน และข้อกำหนดอื่นๆ นอกจากนี้ สารเติมแต่งที่เติมลงในกระดาษบรรจุภัณฑ์อาหารต้องมีแหล่งที่มาที่ชัดเจนและเป็นไปตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการปนเปื้อนสารพิษที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารที่บรรจุ จึงใช้อัตราส่วนการผสมมาตรฐาน
3. กระดาษมีความทนทานสูงและย่อยสลายได้เร็วในสิ่งแวดล้อม
เพื่อป้องกันการรั่วไหลระหว่างการใช้งานหรือการจัดเก็บ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษคุณภาพสูงที่ทนความร้อนสูงและกันน้ำ เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม วัสดุกระดาษที่ใช้บรรจุอาหารต้องเป็นไปตามเกณฑ์การย่อยสลายง่ายและจำกัดปริมาณขยะ เช่น ชามและแก้วใส่อาหารต้องทำจากเยื่อกระดาษธรรมชาติ (PO) หรือเยื่อคราฟต์ ซึ่งจะย่อยสลายได้ภายใน 2-3 เดือน ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ภายใต้อิทธิพลของอุณหภูมิ จุลินทรีย์ และความชื้น โดยไม่ทำลายดิน น้ำ หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
4. วัสดุกระดาษต้องมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียที่ดี
ท้ายที่สุด กระดาษที่ใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์จะต้องสามารถรักษาและปกป้องผลิตภัณฑ์ภายในได้ นี่คือหน้าที่หลักที่ทุกบริษัทต้องให้ความสำคัญเมื่อผลิตบรรจุภัณฑ์
เนื่องจากอาหารเป็นแหล่งโภชนาการและพลังงานหลักของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม อาหารจึงมีความเสี่ยงต่อปัจจัยภายนอก เช่น แบคทีเรีย อุณหภูมิ อากาศ และแสง ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงรสชาติและทำให้เน่าเสียได้ ผู้ผลิตจึงต้องเลือกชนิดของกระดาษที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์อย่างระมัดระวัง เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารภายในจะได้รับการปกป้องที่ดีที่สุดจากปัจจัยภายนอก กระดาษควรมีความแข็งแรงและแข็งเพียงพอที่จะยึดอาหารไว้ได้โดยไม่อ่อนตัว เปราะบาง หรือฉีกขาด
เวลาโพสต์: 30 พ.ย. 2565